Skip to main content

คู่มือโปเกมอน โก สำหรับผู้เล่นกลับมาเล่นใหม่ (2018)

เทรนเนอร์ที่กลับมาเล่นใหม่ (2018) ยินดีต้อนรับครับ Pokémon GO มีการเปลี่ยนแปลงมากตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่คุณหยิบมันขึ้นมาเล่น คู่มือนี้เราจะพูดถึงคุณลักษณะเหมใหม่ที่นำมาใช้ในปี 2018  เตรียมพร้อมให้ตัวคุณเองสนุกไปกับมัน 

โปเกมอนเจน 3 และ ไชนี่โปเกมอน

ในเกมดำเนินมาถึง โปเกมอนในเจนที่ 3 แล้ว ซึ่งปล่อยมาเพิ่มอีก 130 ตัว นอกจากนั้น ยังมีไชนี่โปเกมอนอีกมากมาย ซึ่งจะสุ่มเกิดจากการจับโปเกมอน และตอนนนี้ได้ปล่อยโปเกมอน ร่าง อโลลา มาแล้ว ตัวแรกคือ นัชชี่คอยาว

250 00 shiny249 shiny103 61

ระบบสภาพอากาศ

ขณะนี้ Pokémon GO มีระบบสภาพอากาศในเกมซึ่งสอดคล้องกับสภาพอากาศจริงรอบ ๆ ตัวคุณ สภาพอากาศแต่ละชนิดจะช่วยเพิ่มจำนวนการเกิดของโปเกมอนและบูตพลังให้โปเกมอนที่ตรงกับสภาพอากาศ

 

สภาพอากาศประเภทโปเกมอนที่มีผล
Sunny Grass Ground Fire
Rainy Water Electric Bug
Windy Dragon Flying Psychic
Snow Ice Steel
Fog Dark Ghost
Cloudy Fairy Fighting Poison
Partly Cloudy Normal Rock

 สภาพอากาศส่งผลกับโปเกมอนที่เกิดดังต่อไปนี้:

  • โปเกมอนที่เกิดจะมี Level 6 - Level 35 (ปกติถึงระดับ 30)
  • ค่าน้อยสุดที่เกิด: 4 ATA / 4 DEF / 4 STA
  • ได้รับรางวัล Stardust เพิ่มอีก 25%
  • โปเกมอนที่บูตสภาพอากาศจะมีควันวงขาวๆรอบตัว

การวิจัยภาคสนาม

การวิจัยภาคสนาม หรือแควสเป็นของใหม่ โดยจะรับแควสได้ที่ เสา PokéStops ระบบการวิจัยภาคสนามให้ไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ และมีรางวัลที่แตกต่างกัน หากทำสำเร็จในแต่ละวันจะได้ตราประทับ อย่างน้อยต้องทำวันละ 1 ภารกิจ

ผลตอบแทนการวิจัยภาคสนาม: 

ได้ของต่างๆ: PokéBalls, Berries, Stardust, Candy 

ได้จับโปเกมอน :   โดยโปเกมอนนั้นจะไม่หนี โปเกมอนที่จับได้จะมี เลเวล 15 ไม่บุตอากาศ ใช้PokéBallsและ Berries ของคุณเองเพื่อจับ

คุณสามารถทำเป็นงานวิจัยภาคสนามได้หลายงานต่อวันตามที่คุณต้องการ แต่คุณสามารถรับแสตมป์ได้เพียงครั้งเดียว การเก็บรวบรวมแสตมป์เจ็ดใบคุณจะปลดล็อกรางวัลการวิจัยรายสัปดาห์: จะได้จับ Pokémonในตำนาน

โปเกมอนมายาและการวิจัยพิเศษ

งานวิจัยพิเศษ จะแตกต่างกับงานวิจัยภาคสนาม เพราะภารกิจจะยากกว่า และเกี่ยวข้องกับเลเวล แต่ถ้าคุณทำสำเร็จคุณจะได้จับ Mew 

อ่านเพิ่มเติม:

Raids และ EX Raids

Raids เป็นรูปแบบการเล่นแบบกลุ่มและช่วยให้ผู้เล่นสามารถต่อสู้กับ โปเกมอนในตำนาน และ Pokémon หายากต่างๆ เมื่อชนะจะได้จับโปเมกอนที่เข้าไปสู้

Raids มาในรูปแบบที่แตกต่างกัน:

ระดับ 1 - ตีได้ง่าย

ระดับ 2 - ตีเดี่ยวได้ยาก

ระดับ 3 - ตีกลุ่มได้ง่าย (ต้องใช้ผู้เล่น 1-2 คน)

ระดับ 4 - กลุ่มยากขึ้มาหน่อย (ต้องใช้ผู้เล่น 2-3 คน)

ระดับ 5 - โบเกมอนในตำนาน (ต้องใช้ผู้เล่น 5-6 คน)

EX Raids - เฉพาะที่มีบัตรจะได้ตี Mewtwo

EX Raids จะได้ก็ต่อเมื่อคุณไปตียิม ที่คาดว่าจะเกิด EX Raids จะเป็นยิมตามสวนสาธารนะ ซึ่งสอบถามได้จากผู้เล่นด้วยกันได้เพราะในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันไป ดังนั้นคุณต้องมีกลุ่มเพื่อนที่เล่นเพื่อไม่ให้พลาด

กิจกรรมของ Community Day

นอกเหนือจากทุกสิ่งทุกอย่างข้างต้นแล้ว Pokémon GO มีการเจัดงานรายเดือนโดยมีชื่อ Community Dayโดยจะมีความพิเศษดังต่อไปนี้:

  • ปล่อยโปเกมอนตัวพิเศษเกิดจำนวนมาก
  • มีท่าโจมตีพิเศษสำหรับโปเกมอนที่พัฒนาร่างหรือจับในวันนี้
  • มีไชนี่ด้วย
  • เวลาจัดงาน 3 ชั่วโมง ในไทย 10.00 - 13.00 วันที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละเดืืน

กิจกรรมของ Community Day เป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะปล่อยโปเกมอนที่หายาก และมีไชนี่ ในวันที่ผมเขียน งานจะมีใน วันที่ 16 มิถุนายน 2018ตัวโปเกมอนที่ปล่อย คือ Larvitar และท่าคาดหมายคือ Smack Down

 

 

 

  • Hits: 42731