บทสัมภาษณ์ของ จุนอิจิ มะซุดะ เกี่ยวกับ Pokemon Let’s Go

ตัวอย่างอีกอันนึงคือ เวลาเดินในพงหญ้าเราจะมองไม่เห็นว่าโปเกมอนตัวไหนที่เราจะเจอ ผู้เล่นส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงที่จะเดินผ่าน และนี่คือสิ่งใหญ่ที่เราเปลี่ยนมัน คุณสามารถมองเห็นว่าโปเกมอนตัวไหนโผล่มาก่อนที่จะเดินเข้าไปหาและจับมัน ซึ่งมันจะเปลี่ยนประสบการณ์แบบเชิงรุกมากขึ้นให้ออกไปตามหาโปเกมอน

ดังนั้นสำหรับผม ซึ่งทำงานอยู่กับภาคหลักและทั้ง Pokemon GO แฟนทั้งสองกลุ่มสำคัญต่อผมทั้งคู่ สิ่งที่ผมอยากทำกับเกมนี้คือการนำพวกเขามารวมกัน ซึ่งมันจะทำให้ผมมีความสุขมากถ้าจะได้เห็นทั้งสองกลุ่มมาช่วยกันปาบอลด้วยกันไม่ว่าจะด้วยจอยคอนหรือสมาร์ทโฟน รวมไปถึงผู้ปกครองของเด็กๆที่ออกไปจับโปเกมอนและนำมาฝากเด็กๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยกัน

เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจทำภาคหลักที่จะออกปี 2019

มะซุดะ: จริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบเลี่ยงความเสี่ยงอะไรทำนองนั้น เราตั้งใจจะทำซีรี่ย์ใหม่ของโปเกมอนเพื่อแฟนๆที่ติดตามมาตลอด ซึ่งเราพัฒนากันมาสักพักแล้ว เวลาเดียวกันกับที่เราทำ Let’s Go ส่วนหนึ่งคือเพราะนินเทนโด้สวิตซ์มีฟังก์ชั่นเยอะมากๆที่เราอยากให้ผู้เล่นได้ใช้มัน ดังนั้นเราจึงทำสองเกมนี้ไปพร้อมๆกัน ซึ่งเป้าหมายของผม คืออยากจะให้เด็กๆอีกหลายๆคนหยิบสวิตซ์มาเล่นกันมากขึ้น

เป็นไปได้ไหมที่โปเกมอนจะเป็นแบบ Open มากกว่านี้

มะซุดะ: สำหรับเกมโปเกมอนเราอยากจะให้มันดึงดูดคนเล่นทุกวัยไม่ใช่แค่เด็กหรือผู้ใหญ่ ผมไม่ได้จำกัดทางของมัน ถ้าเราสามารถหาทางได้ มันก็เป็นไปได้ ถ้าเราพบทางที่จะรักษาความสนุกและฐานผู้เล่นแล้วทำให้เกมเปิดกว้างได้ด้วย ทำไมเราจะไม่ทำหล่ะ

เราเดินมาไกลมาก และถ้ามันไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเหมือนแต่ก่อนหล่ะ? เมื่อก่อนผมเป็นแฟนเกม top-down shooting อย่างเช่นเกม R-Type กาลเวลาทำให้เกม shooting ต้องทำให้ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น และถึงจุดที่ผู้เล่นไม่ได้สนุกไปกับมันและเข้าถึงได้ยากขึ้น ดังนั้น สำหรับโปเกมอนเราจะไม่ทำแบบนั้น

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ มะซุดะกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่ซีรี่ย์โปเกมอนจะแตกออกเป็นสองแนวทางคือแบบ Let’s Go และแบบ core RPG แบบดั้งเดิม ซึ่งเขายังไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นในตอนนี้